ถ้าพูดถึงเรื่อง อิฐ ปัจจุบันผนังบ้านนั้นสร้างด้วยทั้ง อิฐมอญ และอิฐมวลเบา ในการสร้างผนังบ้านและผนัง แต่ก็มีหลายต่อหลายคนก็เกิดข้อสงสัยกันว่าการใช้ อิฐมวลเบาและ อิฐมอญ ควรใช้แบบไหนให้เหมาะสมกับการใช้งาน และมีข้อแตกต่างกันอย่างไรบ้าง แต่ก่อนที่เราจะรู้ลึกถึงขนาดนั้น เรามารู้จักอิฐมอญและอิฐมวลเบากันก่อนดีกว่านะคะ
HDWatsadu พร้อมให้คำปรึกษาการใช้งาน และเสนอราคาด่วน ด้วยพนักงานขายมืออาชีพ
โทร.061-450-9292 , 061-590-9292 จันทร์-เสาร์ 8.00-18.00น. หรือ Line ID : @hdwatsadu
อิฐมอญ คืออะไร และมีคุณสบบัติอย่างไร?
อิฐมอญ คือ เป็นอิฐที่ผลิตจากดินเหนียว ผสมแกลบ แล้วนำไปเผาให้แข็ง เป็นภูมิปัญญาของชาวมอญในสมัยก่อนที่อพยบเข้ามาตั้งรากฐานอยู่ในประเทศไทย โดยปกติอิฐมอญจะมีความกว้าง 5.5 เซนติเมตร ยาว 14 เซนติเมตร และหนา 3 เซนติเมตร ซึ่งปัจจุบันได้มีการพัฒนาให้อิฐมอญมีรูปแบบ และขนาดที่หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้า แล้วมีการพัฒนาการผลิตโดยนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ทำให้การผลิตมีมาตราฐานมากขึ้น และผลิตได้เร็จขึ้น
โดยข้อเสียของอิฐมอญคือมีน้ำหนักที่มากกว่าอิฐมวลเบา รวมทั้งมีขนาดเล็กทำให้ใช้เวลาในการก่อผนังค่อนข้างมากกว่า โดยอิฐมอญมีคุณสมบัติอมความร้อน สังเกตได้จากผนังที่โดนแดด หากนำมือไปสัมผัสจะรู้สึกร้อนในช่วงกลางวัน และหลังตะวันตกดินไปแล้ว ช่วงค่ำก็ยังร้อนอยู่ จนกว่าจะตกดึกถึงจะคลายความร้อนได้หมด
แล้วมีวิธีการป้องกันความร้อนอย่างไรบ้าง?
วิธีป้องกันความร้อน กรณีนำอิฐมอญมาใช้งาน นิยมก่อผนัง 2 ชั้นในด้านทิศตะวันตกและทิศใต้ ซึ่งเป็นทิศที่แสงแดดสาดส่องในช่วงกลางวัน การก่อ 2 ชั้นจะต้องเว้นช่องว่างระหว่างอิฐแต่ละชั้นอย่างน้อย 5 ซม. เพื่อให้เกิดช่องว่างมีอากาศถ่ายเท พร้อมกับทำช่องระบายความร้อนให้กับอิฐชั้นนอกเพื่อให้ความร้อนถ่ายเทออกจากตัวบ้าน ส่วนอิฐชั้นในไม่ได้ถูกความร้อนโดยตรง ภายในบ้านจึงเย็นกว่าการก่อชั้นเดียวมาก แต่ทั้งนี้เจ้าของบ้านต้องแลกมาด้วยต้นทุนที่สูงขึ้น ในมุมมองของผู้เขียนเอง หากทำให้บ้านเย็นขึ้นได้ เมื่อมองระยะยาวแล้วนับว่าคุ้มมากค่ะ
คุณสมบัติพิเศษ
- ผนังอิฐมอญแดง มีความแข็งแกร่งกว่าผนังอิฐมวลเบา แม้เมื่อก่อ-ฉาบไปแล้ว ก็ยังสามารถเจาะผนังเพื่อแขวนเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ได้อย่างไม่มีปัญหา
- อัตราความเร็วในการก่อสร้างจะช้ากว่าอิฐมวลเบา เพราะอิฐมอญแดงมีขนาดที่เล็กกว่า แต่สิ่งที่เด่นกว่าก็คือ หาช่างมาทำงานได้ง่าย ค่าแรงถูกกว่า แม้จะเป็นช่างในชนบทห่างไกลเมืองก็ตาม
- ด้วยขนาดที่เล็กกว่าของอิฐมอญแดง จึงสามารถก่อเป็นผนังตกแต่ง ผนังโค้งตามมุม ก่อเป็นซุ้มโค้งใต้คาน ก่อผนังตกแต่งต่าง ๆ ได้ง่ายกว่า นอกจากนี้ผนังอิฐเปลือยเซาะร่อง ยังเป็นผนังตกแต่งแนวฮิปๆ ที่ได้รับความนิยมอีกด้วยเช่นกัน
- หากต้องการให้กันความร้อนได้มากขึ้น ก็สามารถก่อเป็นผนังอิฐสองชั้นได้ โดยที่ว่างระหว่างผนังชั้นนอกกับชั้นใน ควรให้มีช่องว่างอย่างน้อย 5 เซนติเมตร จะเสริมวัสดุจำพวกแผ่นโฟมเข้าไปตรงกลางอีกเพื่อเพิ่มฉนวนก็ย่อมได้อีกเช่นกัน
- อิฐมอญแดงนั้นมีคุณสมบัติในการป้องกันความชื้นได้ดีกว่าอิฐมวลเบา จึงเหมาะสำหรับก่อเป็นผนังห้องน้ำ หรือผนังชั้นล่างของตัวบ้าน
อิฐมวลเบาคืออะไร และมีคุณสมบัติอย่างไร?
อิฐมวลเบา หรือ คอนกรีตมวลเบา ที่ผลิตมาจาก ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ยิปซั่ม ปูนขาว ทรายบดละเอียด น้ำ และผงอลูมิเนียม ผสมเข้าด้วยกันในรูปแบบของเหลวจนเกิดปฏิกิริยาทางเคมี ทำให้เกิดฟองอากาศขนาดเล็กกระจายอยู่ทั่วไปในเนื้อวัสดุประมาณ 75 % ฟองอากาศเหล่านี้ทำให้อิฐมีน้ำหนักเบา และเป็นฉนวนกับความร้อนสูง แล้วจึงนำเข้าอบด้วยไอน้ำที่มีอุณหภูมิ และแรงดันสูงเป็นเวลานาน และเช่นกันคืออิฐมวลเบาผลิตด้วยเครื่องจักรทันสมัย ไม่ใช้แรงงานคน จึงผลิตได้รวดเร็ว แล้วครั้งนึงได้จำนวนค่อนข้างมาก ตัวอิฐมีขนาดใหญ่ แต่มีน้ำหนักเบา จึงเป็นวัสดุก่อสร้างที่นิยมใช้ในปัจจุบัน เพราะช่วยลดระยะเวลาในการก่อสร้าง และลดภาระเรื่องน้ำหนักของโครงสร้าง
ข้อเสียของอิฐมวลเบานั้น ด้วยลักษณะของวัสดุที่มีรูพรุน ทำให้อิฐมวลเบาดูดซับน้ำซึ่งจะมีผลต่อความชื้น จึงไม่นิยมใช้ในงานห้องน้ำหรือห้องครัว และหากต้องเจาะผนังเพื่อติดตั้งอุปกรณ์ก็ต้องใช้พุกที่ออกแบบมาเพื่ออิฐมวลเบาไม่งั้นจะทำให้เกิดความเสียหายได้ เพราะอิฐมวลเบาผนังอาจแตกร้าวได้มากกว่าอิฐมอญ
คุณสมบัติพิเศษ
- อิฐมวลเบา มีน้ำหนักเบากว่าอิฐมอญแดง จึงช่วยประหยัดในส่วนของโครงสร้างคาน เสา และฐานราก จะยิ่งเห็นความแตกต่างได้มากหากเป็นการก่อสร้างอาคารสูง หรือคอนโดมิเนียม
- แม้จะมีขนาดที่ใหญ่กว่าแต่ก็เลื่อยตัดเป็นชิ้นได้ง่าย แต่ก็อาจนำไปก่ออิฐผนังโค้ง หรือผนังสวยงามไม่ได้มากนัก
- ผนังอิฐมวลเบาป้องกันความร้อนได้มากกว่าอิฐมอญแดงเมื่อเปรียบเทียบที่การก่ออิฐชั้นเดียวเหมือนกัน
- อิฐมวลเบา มีราคาอิฐที่สูงกว่า และการก่อ-ฉาบมีค่าแรงสูงกว่า ต้องใช้ปูนเฉพาะที่ผลิตขึ้นมาสำหรับอิฐมวลเบาเท่านั้น บางครั้งอาจหาช่างมาทำงานไม่ได้ เพราะไม่ชำนาญ หรือหาซื้อวัสดุมาทำงานได้ยาก
- เนื่องจากมีรูพรุนในเนื้ออิฐ จึงไม่เหมาะสำหรับการก่อเป็นผนังห้องน้ำ หรือผนังที่ต้องโดนความชื้นเป็นประจำ อาจทำให้ผนังให้อุ้มเอาไว้ กลายเป็นราได้ง่ายมาก
- เมื่อก่อ-ฉาบไปเรียบร้อยแล้ว หากต้องการเจาะผนังเพื่อห้อยแขวนเครื่องใช้ไฟฟ้า สิ่งของตกแต่งต่าง ๆ ในภายหลังจะทำได้ยาก ต้องใช้พุกหรือวัสดุเฉพาะที่มีราคาแพง และรับน้ำหนักไม่ได้มากเท่ากับผนังอิฐมอญแดง
อิฐมอญ และ อิฐมวลเบา ต่างกันอย่างไร?
อิฐมอญ
- มีขนาดกว้าง 5-6.5 cm ยาว 14-16 cm หนา 2.5-6 cm
- 1 ตร.ม. ใช้อิฐก่อ 120-140 ก้อน
- ทนไฟได้นาน 2 ชม.
- แข็งแรง ทนทาน
- อมความร้อน
- ความหนาแน่นสูง
อิฐมวลเบา
- มีขนาดกว้าง 20 cm ยาว 60 cm หนาตั้งแต่ 7-20 cm ขึ้นไป
- 1 ตร.ม. ใช้อิฐก่อ 8.33 ก้อน
- ทนไฟได้นาน 4 ชม.
- ป้องกันความร้อนและกันเสียงได้ดี
- รวดเร็วในการก่อสร้าง
- กันความชื้นได้ดี ปลอดเชื้อรา
- แข็งแรง และมีน้ำหนักเบา
จะเห็นได้ว่าทั้งขนาด ความยาว ความหนานั้น มีความต่างกันพอสมควร รวมไปถึง ความรวดเร็วในการก่อ ซึ่งอิฐมอญจะมีขนาดก้อนที่เล็กกว่าอิฐมวลเบา จึงใช้เวลาในการก่อค่อนข้างที่จะนาน และน้ำหนักอิฐมวลเบาจะเบากว่าอิฐมอญ ประมาณ 2 เท่า แต่ทั้งอิฐมอญและอิฐมวลเบา ก็มีดีที่แตกต่างกันออกไป อยู่ที่ลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้อใช้งาน
แล้วประเภทการใช้งานละ ควรใช้งานบริเวณไหน?
ประเภทการใช้งานของอิฐมอญ
- ควรเลือกใช้บริเวณที่โดนความชื้นบ่อย เช่นห้องน้ำ ห้องครัว
- ควรเลือกใช้บริเวณผนังที่โดนฝนสาดโดยตรง
- ควรใช้ร่วมกับตำแหน่งที่ต้องรับน้ำหนักมาก เช่นอ่างล้างหน้า ท็อปโต๊ะ หรืองานผนังที่มีการตกแต่งวัสดุที่มีน้ำหนักเยอะ
กรณีนำอิฐมอญมาใช้ร่วมกับผนังภายนอก จะเลือกก่ออิฐ 2 ชั้นเท่านั้น เพราะจะช่วยป้องกันความร้อน ป้องกันเสียงได้ดีไม่ต่างไปจากอิฐมวลเบา และเลือกใช้อิฐมอญร่วมกับตำแหน่งที่ต้องรับน้ำหนักมาก อาทิ อ่างล้างหน้า ท็อปโต๊ะ หรืองานผนังที่มีการกรุผนังตกแต่งวัสดุที่มีน้ำหนักมาก
ประเภทการใช้งานของอิฐมวลเบา
- ควรเลือกใช้บริเวณผนังภายในบ้าน ห้องนอน ห้องนั่งเล่น
- ควรเลือกใช้บริเวณผนังภายนอกที่ไม่โดนฝนสาดโดยตรง
กรณีผนังภายนอก จะเลือกใช้เฉพาะด้านที่ไม่โดนฝนสาดโดยตรงครับ หรือหากใช้ผนังภายนอกทั้งหมด จะเลือกอิฐมวลเบาที่มีความหนาตั้งแต่ 10 ซม. ขึ้นไป
แล้วในเรื่องของอุณหภูมิภายในบ้านล่ะ?
คุณสมบัติในข้อนี้ต้องยกให้ อิฐมวลเบา เพราะเนื้ออิฐมีลักษณะเป็นฟองอากาศ มีคุณสมบัติเป็นฉนวนกันความร้อนได้ดี แตกต่างจาก อิฐมอญ ที่เนื้ออิฐมีคุณสมบัติสะสมความร้อนได้ดี เมื่อโดนแสงแดดช่วงกลางวันจะแผ่ความร้อนเข้ามาภายในบ้าน ซึ่งถ้าห้องไหนก่อด้วยอิฐมอญ ควรมีการถ่ายเทอากาศออกสู่ภายนอกได้ ไม่เช่นนั้นต้องเปิดแอร์สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายอย่างมาก
แล้วมีความคงทนและอายุการใช้งานมากน้อยแค่ไหน?
ในเรื่องของความทนทาน ความแข็งแกร่ง อิฐมอญจะได้เปรียบมากกว่าเพราะส่วนผสมที่ทำมาจาก ดินเหนียวปนทราย ผสม แกลบ และขี้เถ้า นำเข้าเตาอบ การยึดเกาะของเนื้อผิวจึงมีมากกว่า สามารถทุบ สกัด เจาะ ฝังอุปกรณ์ต่างๆ ที่รับน้ำหนักมาก ๆ ซึ่งต่างจากอิฐมวลเบาที่มีส่วนผสมทำมาจาก ทราย ซีเมนต์ ปูนขาว ยิปซัม และผงอะลูมิเนียม มีรูพรุนอยู่ข้างในมากกว่า สามารถเกิดการแตกร้าวได้ง่ายกว่า
และในเรื่องการตกแต่ง ต่อเติมล่ะ
อิฐมอญนิยมนำมาตกแต่งในหลายสไตล์ สามารถใช่ก่ออิฐโชว์แนว สไตล์ลอฟท์ หรือวินเทจ ในขณะที่อิฐมวลเบาจะถูกนำมาใช้ก่อผนัง และฉาบปูนทับทั่วไป เรื่องการต่อเติมทั้ง 2 แบบ สามารถทำได้เหมือน ๆ กัน ขึ้นอยู่กับใช้งาน เช่น ถ้าจะต่อเติม เจาะแขวนสิ่งของที่รับน้ำหนักมาก ผนังส่วนนั้นควรใช้อิฐมอญจะดีกว่า
จะเห็นได้ว่าทั้งอิฐมอญแดง และอิฐมวลเบา ต่างก็มีข้อได้เปรียบ-เสียเปรียบที่ต่างกันไป การเลือกใช้นั้นก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกของเจ้าของบ้าน หากต้องการความสะดวกสบาย หาซื้อได้ง่าย หาช่างไม่ยากก็เลือกอิฐมอญแดง แต่หากต้องการน้ำหนักที่เบาและการก่อสร้างที่รวดเร็ว จะลองหันมาเลือกใช้อิฐมวลเบาดูก็ได้ตามสะดวกกันเลย
ความรู้เพิ่มเติม
- ราคาของทั้ง 2 ชนิดแทบไม่ต่างกันมาก เพราะถ้ารวมค่าวัสดุ + ค่าแรง ราคาจะสูงมาก – น้อย กว่าไม่เท่าไหร่
- อิฐมอญสามารถกันไฟได้นาน 2 ชม. ในขณะที่อิฐมวลเบาจะกันไฟได้นานกว่าถึง 4 ชม.
- ในการก่ออิฐ อิฐมวลเบาจะประหยัดเวลากว่า เพราะมีขนาดใหญ่และเท่ากันอย่างสม่ำเสมอ ต่างกับอิฐมอญที่มีขนาดเล็กกว่า
- น้ำหนักอิฐมวลเบาจะเบากว่าอิฐมอญ ประมาณ 2 เท่า
- การใช้พุก อิฐมอญควรใช้พุกพลาสติกสำหรับยึดสกรู เพื่อแขวนของ ส่วนอิฐมวลเบาต้องใช้พุกโลหะในการแขวนของ
สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ HDWatsadu
โทร.061-450-9292 หรือ 061-590-9292 HD
จัดส่งไวถึงหน้างาน พร้อมจัดส่งทุกพื้นที่
ช่องทางติดตามผลงาน
Website : www.hdwatsadu.com
FB : HD Watsadu
IG : hdwatsadu
Line : @hdwatsadu
เราพร้อมบริการคุณลูกค้า