ความแตกต่างระหว่าง กาวอะคริลิค กับ กาวซิลิโคน และวิธีการเลือกใช้ให้ถูกต้อง
ก่อนอื่นนพูดถึงกาว อะคริลิคซีแล้นซ์ หรือ อะคริลิก ยาแยว หรือภาษาช่าง เรียกง่ายๆว่าแดร็ป หลายท่านอาจไม่รู้คืออะไร ใช้งานยังไง? แล้วซิลิโคนละ เหมือนกันไหม เอาล่ะ วันนี้เราก็จะมาสรุปให้เห็นชัดๆเลย
อะคริลิก ยาแยว อะคริลิคซีแล้นซ์ , แดร็ป
อย่างแรก กาวอะคริลิค คือ กาวยาแนวที่มีส่วนประกอบหลักมาจากโพลีเมอร์อะคริลิค (คาร์บอน ไฮโดรเจน ออกซิเจน) ใช้น้ำเป็นตัวทำละลาย แต่เมื่อกาวแห้งและแข็งตัวแล้วจะไม่ละลายน้ำ อะคริลิคมีคุณสมบัติ ยืดหยุ่นและรับแรงได้น้อย แต่สามารถทาสีทับและขัดแต่งผิวงานได้ ไม่ทนต่อแสงยูวี เหมาะสำหรับงานปิดรอยและขัดตกแต่งผิวงานภายในอาคาร สามารถเก็บงานได้สวยงาม
เหมาะสำหรับงานปิดรอยเพราะสามารถทาสีทับได้ ในปัจจุบัน อะคริลิกยาแนวที่ขายในอยู่ในท้องตลาด มีหลายระดับราคา และมีหลายความยืดหยุ่นให้เลือก ซึ่งความยืดหยุ่นเกิดจากการผสมสารเพื่อเพิ่มคุณสมบัติต่างๆ เข้าไป นอกจากความยืดหยุ่นแล้วยังมีการเพิ่มสารคุณสมบัติต่างๆ เข้าไปด้วย เช่น ความทนต่อรังสี UV สารป้องกันเชื้อรา ถึงแม้บางสูตรจะสารเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับ อคริลิคยาแนวแล้ว แต่ก็ยังมีโอกาสในการแตกร้าวได้เช่นกัน จึงไม่เหมาะกับการใช้ในส่วนที่ต้องรับน้ำหนักมาก ๆ หรือบริเวณที่มีแรงสั่นสะเทือน
จุดเด่นของอะคริลิกยาแนว
- คือสามารถขัดแต่งผิวงานได้และทาสีทับได้
- โดยอะคริลิกยาแนวนี้เหมาะสำหรับงานทั่ว ๆ ไป เช่น งานปิดรอยแตกร้าวของผนัง แนวเชื่อมต่อของกรอบประตู หน้าต่างกับผนัง รอยต่อสุขภัณฑ์ เป็นต้น
- ข้อด้อยของอะคริลิด ยาแนว คือ ไม่ทนทานต่อรังสี UV หากใช้งานภายนอกอาคารจะมีอายุการใช้งานที่สั้น และเนื่องจากอะคริลิก
- ยาแนวมีน้ำเป็นตัวทำละลายจึงไม่เหมาะสำหรับการใช้ในพื้นที่ที่เปียกชื้น เพราะจะทำให้เนื้ออะคริลิกไม่แข็งตัว อะคริลิก ยาแนวนี้สามารถใช้ได้กับทุกพื้นผิว ซึ่งมีสีให้เลือกใช้ให้เหมาะสมกับวัสดุนั้นๆ
ซิลิโคน
ซิลิโคน คือ กาวยาแนวที่มีส่วนประกอบหลักมาจากโพลีเมอร์ซิลิโคน หลังจากแห้งและแข็งตัวจะมีลักษณะแข็งและมีความยืดหยุ่นสูง มีผิวมันวาว กาวซิลิโคนถูกใช้ทั้งในงานทั่วไปในบ้านเรือน และในงานอุตสาหกรรม
กาวซิลิโคนมีทั้งหมด 2 ประเภท คือ กาวซิลิโคนชนิดเป็นกรด (Acetic Cure Silicone) และกาวซิลิโคนชนิดเป็นกลาง (Neutral Cure Silicone)
- โดยกาวซิลิโคนชนิดเป็นกรดหรือ Acetic Cure Silicone จะมีลักษณะเฉพาะตัว คือ ในขณะใช้งานจะมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวเหมือนน้ำส้มสายชู เนื่องจากสารระเหยที่เป็นส่วนผสม ซึ่งมีผลทำให้กาวชนิดนี้แห้งเร็ว และมีความแข็งแรงสูง แต่อาจมีฤทธิ์กัดกร่อนวัสดุที่นำไปติดได้ เนื่องจากกาวมีความเป็นกรด จึงนิยมในการนำไปใช้ติดกระจกที่มีความทนทานต่อสารเคมีสูง
- ในส่วนของกาวซิลิโคนชนิดเป็นกลาง (Neutral Cure Silicone) จะมีลักษณะที่แห้งตัวช้ากว่า มีความแข็งแรงน้อยกว่า แต่มีความยืดหยุ่มสูงกว่ากาวซิลิโคนที่เป็นกรด มีกลิ่นเหม็นน้อยกว่า และไม่มีฤทธิ์กัดกร่อนวัสดุ ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทย่อย ได้แก่ กาวซิลิโคนชนิดออกไซม์ (Oxime-Based Silicone) และกาวซิลิโคนชนิดอัลโคซี่ (Alcoxy-Based Silicone)
ความแตกต่างระหว่าง กาวอะคริลิค กับ กาวซิลิโคน และวิธีการเลือกใช้ให้ถูกต้อง
ซิลิโคนและอะคริลิค เป็นกาวที่ถูกใช้ในการยาแนวปิดช่องว่าง หรือรอยต่อ ภายในบ้าน หรืออาคารต่าง ๆ โดยมีลักษณะภายนอกที่ใกล้เคียงกันเป็นอย่างมาก แต่ในการเลือกกาวยาแนวชนิดใดชนิดหนึ่งต้องคำนึงถึงปัจจัยหลาย ๆ อย่าง และการนำไปใช้งานเป็นหลัก ดังนั้น เราจึงสรุปความแตกต่างและการใช้งาน ระหว่างซิลิโคนและอะคริลิค มาเป็นข้อๆ ดังนี้
ความยืดหยุ่น
ซิลิโคน ยืดหยุ่นดีกว่าอะคริลิค ซิลิโคนยืดหยุ่นประมาณ 25% ในขณะที่ อะคริลิคยืดหยุ่นประมาณ 12% และรับแรงได้น้อยกว่าซิลิโคน จึงไม่แนะนำให้ใช้อะคริลิคในส่วนที่ต้องรับน้ำหนักมาก ๆ หรือบริเวณที่มีแรงสั่นสะเทือน
การยึดเกาะ
ซิลิโคนยึดเกาะได้ดีกับพื้นผิวเรียบ เช่น กระจก เซรามิค ไฟเบอร์กลาส ไม้ และอลูมิเนียม ใช้ยาแนวรอยต่อระหว่างอะลูมิเนียมกับกระจกได้ดี ซิลิโคนไม่เหมาะกับพื้นผิวที่มีฝุ่นเกาะ เช่น ผิวปูน ผิวคอนกรีต เพราะตัวซิลิโคนจะไม่จับกับผิววัสดุแต่จะไปจับกับฝุ่นแทนทำให้ไม่มีแรงยึดเกาะ หากจะนำซิลิโคนมาใช้งานประเภทนี้ก็ต้องทำความสะอาดพื้นผิวให้ปราศจากฝุ่นและต้องทาน้ำยารองพื้นก่อนพื่อเพิ่มแรงยึดเกาะ ซึ่งมีความยุ่งยากในการใช้งานและเพิ่มค่าใช้จ่าย
ในขณะที่อะคริลิค สามารถใช้กับวัสดุทั้งผิวเรียบและผิวขรุขระได้ เหมาะสำหรับใช้ยาแนวรอยต่อระหว่างผนังปูนกับวงกบประตู หน้าต่าง ไม้ อลูมิเนียม
ทาสีทับ
ซิลิโคนทาสีไม่ติด จึงมีวางจำหน่ายหลายสีให้เลือกตามความเหมาะสมกับการใช้งาน เช่น สีใสใช้กับงานกระจก สีขาวใช้กับงานสุขภัณฑ์ สีดำใช้กับพื้นผิวที่มีสีเข้ม เช่น ท็อปเคาน์เตอร์ครัวที่เป็นหินแกรนิต เป็นต้น ในขณะที่ อะคริลิคเมื่อแห้งแล้ว สามารถขัดแต่งผิวงาน และทาสีทับได้ จึงเหมาะกับการยาแนวรอยร้าวที่มีขนาดเล็ก ๆ ตามผนังบ้านที่ต้องการทาสีทับ
กันน้ำ
อะคริลิค มีส่วนประกอบที่เป็นสูตรน้ำ ทำให้น้ำสามารถซึมผ่านอะคริลิคได้ จึงไม่แนะนำให้ใช้อะคริลิคในบริเวณที่เปียกหรือแฉะ อะคริลิคจึงเหมาะกับการใช้งานภายในอาคาร และงานอุดรอยต่อเพื่อความสวยงาม หากต้องการยาแนวใช้งานในห้องน้ำ ห้องครัว และบริเวณที่โดนน้ำ แนะนำให้ใช้ซิลิโคน ซึ่งจะมีสูตรพิเศษสำหรับยาแนวสุขภัณฑ์ สามารถป้องกันเชื้อราได้
ทนแดด
ซิลิโคนมีความทนทานต่อสภาพอากาศและรังสียูวีได้ดีมาก ในขณะที่ อะคริลิคไม่ทนแดด มีความคงทนต่อสภาพแวดล้อมได้ต่ำ ฉะนั้น กาวอะคริลิคจึงเหมาะสมกับแก่การใช้งานภายในอาคารเท่านั้น ส่วนซิลิโคน สามารถใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าอะคริลิค จึงเหมาะกับการยาแนวแผงโซลาเซลส์ หลังคาเมทัลชีท ประตู-หน้าต่าง
ขอบคุณข้อมูลจาก tha.sika.com
อะคริลิคซีแล้นซ์ , แดร็ป ซื้อได้ที่ไหน
รายละเอียดสินค้า อะคริลิคซีลแลนท์ Acrylic Sealant กาวอะคริลิค กาวซิลิโคน ซิลิโคน อะคริลิค แด๊ป ยาแนวกระเบื้อง
- การหดตัวต่ำ กันน้ำได้ดี
- ทาสีทับได้ ป้องกันรังสี UV
- ทนทุกสภาพอากาศ
- ได้รับ มาตรฐาน สากล
- ใช้ได้ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น สำหรับประตู & หน้าต่าง / เคาน์เตอร์กระจก
- อายุการใช้งานยาวนาน รับประกัน 5-10 ปี ไม่หลุดร่วง
- 5 นาทีเวลาปลอดตะขอ สามารถเปลี่ยนรูปร่างได้ใน 30 นาที
- ความสามารถในการยืดหยุ่น
ลักษณะต่าง ของ กาวอะครีลิค
- Porcelan white มีสารไทเทเนียมไดออกไซด์ ซึ่งจะไม่เปลี่ยนสี
- คอลลอยด์อยู่ใกล้กับยางซิลิโคน รู้สึกลื่นหลังจากรักษาแล้วมีความเงางาม
- ผลิตภัณฑ์นี้ใช้แป้งเบา มีความจุสูงและแรงโน้มถ่วงเฉพาะแสง
- หดตัวน้อย ทนน้ำได้ดี
การใช้งาน
- กันน้ำและกันสนิมของกระเบื้องเหล็กสี
- การปิดผนึกกันน้ำของสายสะพายหน้าต่างและกระจก
- การติดตั้งประตูและหน้าต่างต่างๆ ฝาปิด กันน้ำ และปิดผนึก
- การปิดผนึกกันน้ำของผนังภายนอกและภายในอาคารสูง
การเก็บรักษาและอายุการเก็บรักษา.
18 เดือนนับจากวันที่ผลิตเมื่อเก็บไว้ที่หรือต่ำกว่า 27C(80*F) ในต้นฉบับ
ภาชนะที่ยังไม่ได้เปิด แพ็คเกจ 300 มล./ลิตร
ข้อจำกัดของผลิตภัณฑ์
1. กาวที่ใช้น้ำต้องได้รับการป้องกันจากแสงและเก็บไว้ในสภาพแวดล้อมภายในที่ระบายอากาศ-
ที่อุณหภูมิ 5-40 องศาเซลเซียส